วิเคราะห์ความคิดสร้างสรรค์ในเรื่อง
“ฆวามเฆญชิน (ความเคยชิน)”
ในเรื่องสั้น
(ขออนุญาตเรียกเช่นนั้น) เป็นเรื่องที่มีความน่าสนใจในแง่การเล่นสนุกกับผู้อ่าน
โดยใช้ตัวอักษรที่เขียนเป็นสื่อในการถ่ายทอดให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมไปกับการดำเนินเรื่อง
เปิดเรื่องโดยการใช้ข้อความที่มีลักษณะของการเตือนในเรื่องที่เขียน ซึ่งคำเตือนก็ไม่ได้เป็นคำเตือนในแง่ที่ว่าห้ามอ่านอย่างเด็จขาด
แต่กลับใช้การตั้งคำถามในการถามเพื่อให้แน่ใจว่าผู้อ่านจะอ่านเนื้อหาทีเขียนจริงหรือ
ในข้อความที่ว่า “เราให้โอกาสคุณ อีกครั้ง-ครั้งสุดท้าย”
เป็นการดึงดูดให้ผู้อ่านเกิดความน่าสนใจในเนื้อหาของเรื่องจะพูดอะไรต่อไป
พร้อมกับให้ผู้อ่านเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่โลกที่ผู้พร้อมที่จะให้ผู้อ่านเผชิญ ในแง่ของการใช้ความคิดสร้างสรรค์ของผู้เขียนในย่อหน้าเปิดเรื่อง
ก็เป็นการดึงดูดให้ผู้อ่านเกิดความสนใจในสิ่งที่ผู้เขียนกำลังจะสื่อ
โดยไม่ได้ใช้ประโยคในการเชิญชวนให้อ่าน
แต่เป็นประโยคเชิงเตือนในเรื่องแล้วจึงทำทีเป็นว่ายอมที่จะให้ผู้อ่านเข้าไปสู่สิ่งที่ตนสร้างขึ้น
(เนื้อหาที่เขียน)
จนกระทั้งเมื่อเข้าสู่เนื้อหาของเรื่องในหน้าที่สอง
ผู้เขียนกลับสร้างความประหลาดใจให้กับผู้อ่านในการเขียนของผู้เขียนที่ใช้อักษรที่มีเสียงเหมือนกันแต่รูปลักษณ์ต่างกัน
มาเขียนแทนคำที่เคยพบเห็นทั่วไป ดูได้จากบรรทัดแรกในหน้าสอง “ญิณฎีฏ้อนลับ!” ซึ่งเดิมเขียนว่า “ยินดีต้อนรับ” แต่ผู้เขียนกลับเลือกที่เขียนด้วยอักษรที่มีเสียงเหมือนกันแทนแบบเดิมที่เคยเขียน
และการเขียนในลักษณะดังกล่าวก็ไม่ได้เขียนเพียงแค่นั้น
แต่กลับเขียนเกือบทั้งเนื้อหา ชนิดที่ว่าใช้ตัวอักษรที่มีเสียงเหมือนกันมาเขียนในคำที่เขียนในปัจจุบันเป็นประโยคข้อความทั้งหมด
ดูได้จากยกตัวอย่าง
ผมแณ่ไจว่าคุนญังใม่เคญเจอมัณมาก่อน
ผมเข้าไจ เรยภิมพ์บัณฑัตละ “ษั้นศั้น”
ให้คุนใด้หายใจหายฆอ
จะเห็นได้ว่าบางคำก็ไม่ได้เปลี่ยนรูปอักษรไปจากเดิม
นั่นหมายความผู้เขียนต้องการเน้นเรื่องเสียงของตัวอักษรที่เหมือนกับคำเดิมเป็นหลัก
ส่วนเรื่องสระและวรรณยุกต์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรยกเว้นสระที่เสียงเหมือนกันแต่รูปลักษณ์ต่างกันคือ
สระไอและสระใอ ส่วนในประโยคที่ยกตัวอย่างมานั้น
หากเขียนแบบที่เขียนกันทั่วไป จะได้ว่า “ผมแน่ใจว่าคุณยังไม่เคยเจอมันมาก่อน ผมเข้าใจ เลยพิมพ์บรรทัดละ “สั้นสั้น”
ให้คุณได้หายใจหายคอ” ตามที่กล่าว
ในตัวอย่างผู้เขียนก็เขียนหรือพิมพ์ ประโยคแต่ละบรรทัดขนาดสั้นๆ
เพื่อให้ผู้อ่านพยายามนึกถึงการออกเสียงของตัวพยัญชนะที่ปรากฏอยู่ในคำแล้วจึงค่อยเปล่งออกมาอ่านในใจ
พร้อมทั้งการแบ่งย่อหน้าที่มีความถี่เพื่อง่ายขึ้นต่อการแกะเสียงพยัญชนะในการอ่านและเข้าใจในสิ่งที่ผู้เขียนต้องการสื่อ
ซึ่งตัวเนื้อเรื่องก็ยังคงทำงานแบบเดิมกับที่เคยกล่าวตอนเปิดเรื่อง
แต่มีความต่างออกไปตรงที่ตัวเนื้อหามีลักษณะเป็นการคุยกับตัวผู้อ่าน
โดยที่เขาจะคุยไปเรื่อยๆ ส่วนผู้อ่านมีหน้าที่ในการฟังสิ่งที่เขาพูดไป
ถึงโลกใบใหม่
โลกที่ผู้เขียนสร้างขึ้นโดยการดำตัวพยัญชนะที่มีเสียงเหมือนมาเขียนแทนคำที่เขียนกันในปัจจุบัน
แน่นอนว่าการที่ผู้เขียนเปลี่ยนมาใช้พยัญชนะที่มีเสียงเหมือนกัน
มาเขียนแทนพยัญชนะเดิมที่เขียนอยู่ในคำ
ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาในสังคมการเขียน (ยกเว้นในการสนทนาทางออนไลน์)
ในด้านความคิดสร้างสรรค์ที่เห็นได้ชัดเจนคือการที่ผู้เขียนมีความคิดที่นำเอาพยัญชนะที่มีเสียงเหมือนกันมาเขียนแทนคำที่เขียนๆ
กันในปัจจุบัน โดนคำที่เขียนในปัจจุบันผู้เขียนกล่าวว่าเป็นโลกแห่งความเคยชิน
(โรกแห่งฆวามเฆญชิณ)
แสดงให้เห็นว่าการเขียนที่ผู้เขียนได้เขียนขึ้นมานั้นคือการสร้างความต่างจากโลกใบเดิมของเขียนขึ้น
แต่ก็ยังติดอยู่กับขอบเขตในเรื่องเสียง กล่าวคือ เปลี่ยนเพียงแค่รูปลักษณ์แต่ยังคงไว้ในการออกเสียงแบบเดิม
และท้ายที่สุดแม้ผู้เขียนจะนำพาผู้อ่านเข้าสู่โลกใบใหม่ที่ผู้เขียนต้องการสื่อ
แต่ก็ไม่พ้นที่จะนำทั้งตัวผู้เขียนและผู้อ่านกลับมาสู่โลกใบเดิม โลกแห่งความเคยชิน
หรือการเขียนแบบที่สังคมเขียนกันในปัจจุบัน
เรื่องสั้นจาก
https://www.dek-d.com/board/view/1886935