โคลงหน้าหนาว 28 บท
(รวมโคลงสี่สุภาพ ว่าด้วยเรื่องราวในฤดูหนาวที่ไม่ปรากฏในเมืองหลวง)
๏พระพายพลิ่วเล่นลิ่ว จำปาโรยรา
ปลิวทั่วทุ่งท้องนา ทุ่งข้าว
หนาวจับสั่นกายา คุมห่ม
ภูษา
อบอุ่นยินเสียงว่าว อื่ออื้อ ค่ำคืน
๏กองไฟสว่างแจ้ง ขับไล่ลมหนาว
สังเกตหมู่หมอกไอ ชื่นหล้า
กระเจียวพรั่งบานไหว หยดแม่
คะนิ้ง
เต็มทุ่งทางใบหญ้า ถิ่นบ้าน
เกิดตน
๏อากาศเย็นตื่นเช้า
ฟ้ามืด ไร้แสง
เย็นยิ่งย่างยาดยืด เหยียดย้าย
จำฝืนอย่างอืดฝืด พลิกนั่ง เหม่อลอย
กึ่งตื่นกึ่งหลับคล้าย บ่อน้ำ ระลอก
๏เหมันต์ยามรุ่งเช้า
ขาวนวล แสงแดด
สิ้นวี่แววพิรุณครวญ เคลื่อนย้าย
ฤดูกาลเปลี่ยนลาลวน เจ็บป่วย ตามมา
ควรมั่นรักษาคล้าย แผ่นหล้า บ้านเกิด
๏ยามลมหนาวสั่นสู้
หวีดหวิว ผิวกาย
ริบหรี่แสงดวงจิ๋ว หิ่งห้อย
ประกายเด่นบินลิ่ว กลางป่า กลางดง
แสงสว่างแรงด้อย เหว่ว้า ราตรี
๏สัตบรรณกลิ่นฟุ้ง
หน้าหนาว ยามค่ำ
แผ่กิ่งดอกสีขาว กลีบน้อย
บานเป็นพุ่มคล้ายดาว สะพรั่ง อบอวล
ฉุนกลิ่นเวียนหัวคล้อย อีกชื่อ ตีนเป็ด
๏เสื้อกันหนาวหลากร้อย หลายสี
มักใส่หน้าหนาวมี อวดอ้าง
ตามทุกที่ฤดี เล็กใหญ่ ตามตัว
อบอุ่นร่างกายบ้าง เก่าบ้าง ใหม่บ้าง
๏ลมหนาวนอนห่มผ้า เตียงนอน คลุมโปง
บนที่นอนกอดหมอน ก่ายข้าง
ห่มสามสี่ดุจหนอน หนาวสั่น ในผ้า
คดห่อเรือนร่างว่าง เกียจคร้าน ลืมตื่น
๏น้ำเย็นสั่นสะดุ้ง สั่นไหว
แลหวั่นเกรงในใจ ซู่ซู้
ยะเยือกหยดสีใส ปั่นป่วน
ตักสาดสั่นชั่วครู่ อุ่นรู้ สติคืน
๏ยืนกลางแดดแผดเผา อุ่นไอ
คลายเหน็บหนาวผิงไฟ จี่ข้าว
พลัดปันแบ่งกินไป จุดเสียด
อืดอิ่มไร้อบอ้าว เหล่าเพื่อน ครื้นเครง
๏หน้าหนาวปีใหม่ใกล้
มาเยือน
เข้าสู่ลมพัดเตือน
โศกเศร้า
ให้พ้นผ่านลาเลือน
มีสุข
ปรารถนาที่เฝ้า- ใฝ่ให้ สมหวัง
๏ใบไม้โรยเหี่ยวร่วง เปลี่ยนสี น้ำตาล
ต้นผลิใบเรียวรี ออกมาลย์
แสบแสงแดดหวิววี นางแอ่น ผกผิน
บินเล่นเย็นเยือดยาด ป่าทุ่ง เหมันต์
๏ลมพัดผ่านสดชื่น ยามเช้า สดใส
แปรเปลี่ยนลมพัดเคล้า ขับไล่
ร้อนชื่นอุ่นร้อนเร้า ดุจดั่ง
แทนที่
เย็นหวั่นสายลมให้ ฝากเฝ้า คิดถึง
๏หมอกหนาวราวปุยนุ่น ปุกปุย สีขาว
ลอยแผ่วบางเบาฉุย
ขุ่นใกล้
ทุกก้าวที่เดินลุย
หม่นเช้า
กระจ่างหายนึกใคร่
ฉ่ำชื่น อากาศ
๏ค่ำคืนหนาวแต่ฟ้า พร่าวพราว ดารา
ปลอดโปร่งระยิบดาว ถี่แจ้ง
จับเรียงกลุ่มสั้นยาว
สว่าง หลายดวง
จันทร์เปล่งประกายแกล้ง เร่งเร้า บังดาว
๏แดดเหลืองฉายส่องเลื่อน ตามกาล
เคลื่อนผ่านทิวากาล ต่ำคล้อย
ปรากฏแต่นิลกาฬ ลมพรั่น
เย็นเยือก
เย็นย่ำกระทบย้อย หยดน้ำ ค้างลง
๏หิมะโปรยตกนุ่ม
ไอเย็น ควันขาว
พฤกษ์ไม่มีใบเป็น อยู่ล่าง
ทับถมต่ำลำเข็ญ แฉะฉ่ำ หิมะ
นั้นจึ่งเพียงฝันข้าง ไม่ได้
มีจริง
๏ลมพลิ้วโบกถิ่นท่อง
ใกล้ถึง
สิ้นปี
มาบ่งบอกหวนคนึง ก่อนครั้ง
เรื่องราวเล่าสะพรึง ก่ำกึ่ง ปะปน
บ้างสุขทุกข์พลาดพลั่ง แต่ล้วน ห้วนคิด
๏เดือนสิบสอง เดื่อนอ้าย ลมพัด
วอยวอย
หวนสู่ตามนัดหมาย ถิ่นบ้าน
หมอกว่างเปล่าพานพัด เข้าผ่าน สู่ไทย
ก่อกระจายเพ่นพ่าน ที่พร้อม ความเย็น
๏ควันขาวลอยขื่อขึ้น เหนือไฟ
มีกลิ่นเย้ายวนใจ ไก่ย่าง
นั่งปิ้งอย่างความใน กระเส้า
สั่นหนาว
กระหน่ำพัดวีข้าง รี่เร่ง ให้สุก
๏สถานที่ท่องเที่ยว มากมาย หน้าหนาว
ภูกระดึงหมอกสาย เมื่องเล้ย
ภาคเหนือที่แม่ปาย เชียงใหม่
ไปเกาะทางใต้เฮ้ย! อุ่นร้อน หนีหนาว
๏ดอกไม้บานหร่ายทุ่ง งดงาม เหมันต์
พันกลีบดอกพรั่งตาม หมู่ผึ้ง
ดอมดมหมู่ดอกคราม บินผ่าน ลมหนาว
ก่อไผ่ไหวสั่นซึ่ง ลู่ลิ่ว ตามลม
๏บ่ายเริ่มหนาวเก็บผ้า น้ำค้าง เริ่มลง
เก็บเสื่อผึ่งตากลม เหือดแห้ง
รองเท้ากระเป๋าข้าง ตากเสร็จ
เก็บคืน
ไหนบ่แห้งทำแสร้ง เก็บเข้า ตากเรือน
๏พื้นบ้านเย็นกระเบื้อง ก้าวเดิน
เย็นจัดอยากเหาะเหิน หลีกเลี่ยง
นั่งนอนสะดุ้งเกิน เย็นเฉียบ
เหมือนดั่งวิหกเอี้ยง โดดเด้ง ไปมา
น่าแปลกตานักหนา เกลื่อนบ้าน
ให้อบอุ่นหวงหา รักสัตว์
สวมใส่บ้างต่อต้าน ถอดทิ้ง เกะกะ
๏ปวดฉี่บ่อยตื่นขึ้น อากาศ
เย็นเยือก
ลุกสะลึมสะลือปาด เปิดผ้า
เดินมึนอย่างยืดยาด ชิ้งฉ่อง
ห้องน้ำ
เสร็จสรรพเดินหลับหน้า กลับเข้า
ที่นอน
๏ลมหนาวพัดโบกลิ่ว หน่ำใหญ่ ส่งท้าย
สวัสดีปีใหม่ จากใกล้
อวยชัยส่งฝันใฝ่ ประสบ
ดีงาม
ลมผ่านเลยหาไม่ จากใคร่ กลับคืน
๏นาหน้าหนาวเกลื่อนทุ่ง ข้าวดอ สุกเรือง
น้ำบ่อใสเห็นตอปอ ตัดด้วน
คมเคียวเกี่ยวกำกอ ยินโหวด วูดแว่ว
แคนเป่าพิณดีดม่วน กึกก้อง ธานินทร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น