วันอาทิตย์ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566

วิเคราะห์ความคิดสร้างสรรค์ในเรื่อง “ฆวามเฆญชิน (ความเคยชิน)”

 



วิเคราะห์ความคิดสร้างสรรค์ในเรื่อง  “ฆวามเฆญชิน (ความเคยชิน)”

              ในเรื่องสั้น (ขออนุญาตเรียกเช่นนั้น) เป็นเรื่องที่มีความน่าสนใจในแง่การเล่นสนุกกับผู้อ่าน โดยใช้ตัวอักษรที่เขียนเป็นสื่อในการถ่ายทอดให้ผู้อ่านมีส่วนร่วมไปกับการดำเนินเรื่อง เปิดเรื่องโดยการใช้ข้อความที่มีลักษณะของการเตือนในเรื่องที่เขียน ซึ่งคำเตือนก็ไม่ได้เป็นคำเตือนในแง่ที่ว่าห้ามอ่านอย่างเด็จขาด แต่กลับใช้การตั้งคำถามในการถามเพื่อให้แน่ใจว่าผู้อ่านจะอ่านเนื้อหาทีเขียนจริงหรือ ในข้อความที่ว่า “เราให้โอกาสคุณ อีกครั้ง-ครั้งสุดท้าย” เป็นการดึงดูดให้ผู้อ่านเกิดความน่าสนใจในเนื้อหาของเรื่องจะพูดอะไรต่อไป พร้อมกับให้ผู้อ่านเตรียมพร้อมที่จะเข้าสู่โลกที่ผู้พร้อมที่จะให้ผู้อ่านเผชิญ ในแง่ของการใช้ความคิดสร้างสรรค์ของผู้เขียนในย่อหน้าเปิดเรื่อง ก็เป็นการดึงดูดให้ผู้อ่านเกิดความสนใจในสิ่งที่ผู้เขียนกำลังจะสื่อ โดยไม่ได้ใช้ประโยคในการเชิญชวนให้อ่าน แต่เป็นประโยคเชิงเตือนในเรื่องแล้วจึงทำทีเป็นว่ายอมที่จะให้ผู้อ่านเข้าไปสู่สิ่งที่ตนสร้างขึ้น (เนื้อหาที่เขียน)

              จนกระทั้งเมื่อเข้าสู่เนื้อหาของเรื่องในหน้าที่สอง ผู้เขียนกลับสร้างความประหลาดใจให้กับผู้อ่านในการเขียนของผู้เขียนที่ใช้อักษรที่มีเสียงเหมือนกันแต่รูปลักษณ์ต่างกัน มาเขียนแทนคำที่เคยพบเห็นทั่วไป ดูได้จากบรรทัดแรกในหน้าสอง “ญิณฎีฏ้อนลับ! ซึ่งเดิมเขียนว่า “ยินดีต้อนรับ” แต่ผู้เขียนกลับเลือกที่เขียนด้วยอักษรที่มีเสียงเหมือนกันแทนแบบเดิมที่เคยเขียน และการเขียนในลักษณะดังกล่าวก็ไม่ได้เขียนเพียงแค่นั้น แต่กลับเขียนเกือบทั้งเนื้อหา ชนิดที่ว่าใช้ตัวอักษรที่มีเสียงเหมือนกันมาเขียนในคำที่เขียนในปัจจุบันเป็นประโยคข้อความทั้งหมด ดูได้จากยกตัวอย่าง

               ผมแณ่ไจว่าคุนญังใม่เคญเจอมัณมาก่อน

               ผมเข้าไจ  เรยภิมพ์บัณฑัตละ “ษั้นศั้น” ให้คุนใด้หายใจหายฆอ

              จะเห็นได้ว่าบางคำก็ไม่ได้เปลี่ยนรูปอักษรไปจากเดิม นั่นหมายความผู้เขียนต้องการเน้นเรื่องเสียงของตัวอักษรที่เหมือนกับคำเดิมเป็นหลัก ส่วนเรื่องสระและวรรณยุกต์ก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรยกเว้นสระที่เสียงเหมือนกันแต่รูปลักษณ์ต่างกันคือ สระไอและสระใอ  ส่วนในประโยคที่ยกตัวอย่างมานั้น หากเขียนแบบที่เขียนกันทั่วไป จะได้ว่า  “ผมแน่ใจว่าคุณยังไม่เคยเจอมันมาก่อน    ผมเข้าใจ เลยพิมพ์บรรทัดละ “สั้นสั้น” ให้คุณได้หายใจหายคอ”  ตามที่กล่าว ในตัวอย่างผู้เขียนก็เขียนหรือพิมพ์ ประโยคแต่ละบรรทัดขนาดสั้นๆ เพื่อให้ผู้อ่านพยายามนึกถึงการออกเสียงของตัวพยัญชนะที่ปรากฏอยู่ในคำแล้วจึงค่อยเปล่งออกมาอ่านในใจ พร้อมทั้งการแบ่งย่อหน้าที่มีความถี่เพื่อง่ายขึ้นต่อการแกะเสียงพยัญชนะในการอ่านและเข้าใจในสิ่งที่ผู้เขียนต้องการสื่อ ซึ่งตัวเนื้อเรื่องก็ยังคงทำงานแบบเดิมกับที่เคยกล่าวตอนเปิดเรื่อง แต่มีความต่างออกไปตรงที่ตัวเนื้อหามีลักษณะเป็นการคุยกับตัวผู้อ่าน โดยที่เขาจะคุยไปเรื่อยๆ ส่วนผู้อ่านมีหน้าที่ในการฟังสิ่งที่เขาพูดไป ถึงโลกใบใหม่ โลกที่ผู้เขียนสร้างขึ้นโดยการดำตัวพยัญชนะที่มีเสียงเหมือนมาเขียนแทนคำที่เขียนกันในปัจจุบัน

              แน่นอนว่าการที่ผู้เขียนเปลี่ยนมาใช้พยัญชนะที่มีเสียงเหมือนกัน มาเขียนแทนพยัญชนะเดิมที่เขียนอยู่ในคำ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ไม่เคยปรากฏขึ้นมาในสังคมการเขียน (ยกเว้นในการสนทนาทางออนไลน์) ในด้านความคิดสร้างสรรค์ที่เห็นได้ชัดเจนคือการที่ผู้เขียนมีความคิดที่นำเอาพยัญชนะที่มีเสียงเหมือนกันมาเขียนแทนคำที่เขียนๆ กันในปัจจุบัน โดนคำที่เขียนในปัจจุบันผู้เขียนกล่าวว่าเป็นโลกแห่งความเคยชิน (โรกแห่งฆวามเฆญชิณ) แสดงให้เห็นว่าการเขียนที่ผู้เขียนได้เขียนขึ้นมานั้นคือการสร้างความต่างจากโลกใบเดิมของเขียนขึ้น แต่ก็ยังติดอยู่กับขอบเขตในเรื่องเสียง กล่าวคือ เปลี่ยนเพียงแค่รูปลักษณ์แต่ยังคงไว้ในการออกเสียงแบบเดิม และท้ายที่สุดแม้ผู้เขียนจะนำพาผู้อ่านเข้าสู่โลกใบใหม่ที่ผู้เขียนต้องการสื่อ แต่ก็ไม่พ้นที่จะนำทั้งตัวผู้เขียนและผู้อ่านกลับมาสู่โลกใบเดิม โลกแห่งความเคยชิน หรือการเขียนแบบที่สังคมเขียนกันในปัจจุบัน


เรื่องสั้นจาก

https://www.dek-d.com/board/view/1886935



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น