นิยายวาย คือนิยายประเภทหนึ่งที่มีเนื้อเรื่องเน้นไปทางความรักระหว่างผู้ชายด้วยกันเอง
นิยายดังกล่าว ล้วนได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในหมู่หญิงสาว
(ผู้ชายก็มีเช่นกันแต่เป็นส่วนน้อย) ที่ชื่นชอบในเรื่องชายรักชาย ซึ่งความนิยมในเรื่องนี้ก็ถือว่าเป็นความแปลกในด้านการเสพวรรณกรรมของผู้คน
แต่นั่นก็ ไม่ได้เป็นของใหม่ในสังคม (ซึ่งเรื่องเกย์หรือชายรักชาย มีมาก่อนหน้าที่ผู้เขียนจะเกิด)
แต่ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจนถึง ณ
ตอนนี้ กระแสความนิยมในเรื่องชายรักชายเริ่มเผยออกมาให้เห็นอย่างชัดเจนในสังคม โดยเริ่มต้นจากการเป็นนิยายในสื่อออนไลน์
หรือตามเว็บไซต์ เช่น เด็กดี (Dek-D.com) ธัญวลัย (tunwalai.com)
เป็นต้น และได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่ผู้อ่านจนต้องมีการนำมาตีพิมพ์เป็นเล่ม วางจำหน่ายตามร้านหนังสือชั้นนำทั่วไป
แน่นอนว่าความนิยมดังกล่าวย่อมส่งผลให้มีการนำไปทำเป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์เพื่อปั่นกระแสให้มีเพิ่มมากยิ่งขึ้น
เช่นเดียวกับนิยายวายเรื่องหนึ่งที่จะกล่าวถึงต่อจากนี้
“SOTUS
พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง” คือหนึ่งในนิยายวายที่โด่งดังมาจากเว็บไซต์ก่อนที่จะมีการนำมาตีพิมพ์เป็นหนังสือ
เขียนขึ้นในช่วงปลายปี พ.ศ. 2556 ลงในเว็บไซต์ www.Dek-D.com ผู้แต่งคือ บุษรา
ภัทราพรพิสิฐ หรือเจ้าของนามปากกา BitterSweet และได้ตีพิมพ์ครั้งแรกในปี
พ.ศ. 2557 โดยสำนักพิมพ์ NABU ก่อนที่จะมีการนำมาสร้างเป็นซีรีส์ทางโทรทัศน์
ออกอากาศในปลายปี พ.ศ. 2559 ในชื่อว่า “SOTUS The
serier พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง” ทางช่องวัน 31
ส่วนทางด้านที่มาของเรื่องนั้น ทางผู้แต่งได้ให้สัมภาษณ์ลงในนิตยสาร
attitude ฉบับที่ 77 เดือนกรกฎาคม
2560ว่า
“SOTUS นี่ต้องย้อนกลับไปในช่วงปี 56 ที่มีกระแสแฮซแท็ก #พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง ในทวิตเตอร์ที่ดังมาก จริงๆ แท็กนี้พลอย (ชื่อเล่นของผู้แต่ง)ไม่ได้เป็นคนคิดนะคะ มีนักเล่นทวิตเตอร์นี่แหละเขาคิดกัน ตอนนั้นเหมือนมีการล้อระบบโซตัสแรงๆ ก็เลยอยากเอามาจิ้นให้มันตลกและดูเสียดสีแทน” (หน้า 66)
“SOTUS นี่ต้องย้อนกลับไปในช่วงปี 56 ที่มีกระแสแฮซแท็ก #พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง ในทวิตเตอร์ที่ดังมาก จริงๆ แท็กนี้พลอย (ชื่อเล่นของผู้แต่ง)ไม่ได้เป็นคนคิดนะคะ มีนักเล่นทวิตเตอร์นี่แหละเขาคิดกัน ตอนนั้นเหมือนมีการล้อระบบโซตัสแรงๆ ก็เลยอยากเอามาจิ้นให้มันตลกและดูเสียดสีแทน” (หน้า 66)
เรียกได้ว่า ผู้แต่งหรือ BitterSweet ได้แนวคิดมาจากสื่อโซเชียวในทวิตเตอร์ที่มีการนำเอารูปเหล่าบรรดานักศึกษาชายต่างชั้นปีจากสถาบันต่างๆ มาเป็นภาพประกอบในการจินตภาพในแง่ของชายรักชาย ซึ่ง BitterSweet เรียกสิ่งนั้นว่า “เอามาจิ้น” (บ้างก็เป็นไปในเชิงล้อเลียน) ประกอบกับกระแสความรุนแรงของการรับน้อง หรือระบบโซตัส (SOTUS) ที่ปฏิบัติกันตามสถานศึกษาในระดับมหาวิทยาลัย มาใช้ในการสร้างนิยายเรื่องนี้ขึ้น
เนื้อหาของเรื่องนั้น จะเป็นเรื่องราวของ
“อาทิตย์” หัวหน้าพี่ว้ากปีสามของคณะวิศวกรรมศาสตร์
ที่ยึดมั่นในการทำหน้าที่เป็นพี่ว้ากตามที่ได้รับสืบทอดตำแหน่งพี่ว้ากจากรุ่นพี่รุ่นก่อนๆ
แต่ก็ต้องสะดุดเมื่อถูกใครสักคนปีนเกลียวต่ออำนาจที่เขามี ใครคนที่นั้นก็คือ “ก้องภพ”
รุ่นน้องปีหนึ่งที่เข้าร่วมกิจกรรมการรับน้องของคณะ ซึ่งทำให้อาทิตย์ไม่ชอบหน้าของก้องภพเป็นอย่างมาก
และก้องภพเองก็มีท่าทีว่าสนใจในตัวของอาทิตย์อยู่ไม่น้อย
การพบกันของทั้งคู่นำพาให้เกิดความรู้สึกแปลกใหม่ ที่เกิดขึ้นทั้งตัวของก้องภพเอง
หรือแม้แต่เฮดว้าก(หัวหน้าพี่ว้าก)อย่างอาทิตย์ที่แต่เดิมนั้นตัวเขาเองหมั่นไส้และไม่ชอบขี้หน้าก้องภพมาตั้งแต่แรกเป็นอย่างมาก
พยายามใช้อำนาจการเป็นพี่ว้ากที่ตนมีกำราบบุคคลดังกล่าว ทั้งการสั่งทำโทษต่างๆ การออกคำสั่งให้ทำตามที่ตัวเองสั่ง
หรือแม้แต่การรับพนันคำท้าระหว่างเขากับก้องภพเองในการแข่งขันกีฬาเฟรชชี่ และการประกวดดาว-เดือนของมหาวิทยาลัย
แต่สุดท้ายอาทิตย์ก็ไม่สามารถทำอะไรก้องภพได้ตามเป้าหมายที่ตัวเองกำหนด ทั้งยังทำให้อาทิตย์เริ่มรู้สึกหวั่นไหวในตัวก้องภพทุกครั้งที่เขาแสดงออกผ่านทางคำพูด
น้ำเสียงที่ใช้ สีหน้าและแววตาที่ส่งยังอาทิตย์
ส่วนตัวก้องภพนั้นก็ไม่ได้มีท่าทีว่าจะเกรงกลัวพี่ว้ากอย่างอาทิตย์
ซ้ำยังพยายามที่จะทำให้อาทิตย์สนใจในตัวเขา ทำทุกอย่างที่จะได้อยู่ใกล้ชิดกับอาทิตย์
และการกระทำบางอย่างของอาทิตย์เองทั้งทางตรงและทางอ้อมก็ส่งผลต่อความรู้สึกของก้องภพ
ซึ่งนั้นเองที่ทำให้ก้องภพเริ่มแน่ใจในความรู้สึกที่เขามีต่ออาทิตย์จากเดิมที่มีอยู่แล้วมันก็เพิ่มพูนในใจของเขา
ทั้งตัวอาทิตย์และก้องภพต่างก็ต้องพบกับความกดดันในความรู้สึกลึกๆ อาทิตย์เองพยายามที่จะหลีกหนีอารมณ์ความรู้สึกที่ตนมีต่อก้องภพ
และกลัวการยอมรับสังคมในมหาวิทยาลัยในเรื่องชายรักชาย ท้ายที่สุดทั้งอาทิตย์และก้องภพต่างก็เลือกทำตามความรู้สึกของหัวใจตนเอง
ยอมรับความรู้สึกของกันและกันและใช้ชีวิตในรั่วมหาวิทยาลัย บนความสัมพันธ์ที่มากกว่าการเป็นพี่ว้ากและรุ่นน้องปีหนึ่ง
ในเรื่อง จะเห็นได้ว่าผู้แต่งหรือ BitterSweet นั้น ถ่ายทอดเรื่องราวความรักระหว่างชายด้วยกันในมหาวิทยาลัยที่ใช้เป็นฉากหลักของเรื่อง
สิ่งที่น่าสนใจคือการที่ BitterSweet ให้ตัวละครในเรื่องมีสถานะเป็นนักศึกษาของคณะวิศวกรรมศาสตร์
การระบุเฉพาะเจาะจงในเรื่องคณะของ BitterSweet
เป็นนำเอาภาพลักษณ์ความโดดเด่นมาใช้ให้ดูสมจริงและเห็นภาพได้อย่างชัดเจน
โดยภาพลักษณ์ที่ว่าคือ ภาพลักษณ์ของการรับน้องในคณะ
ซึ่งภาพลักษณ์การรับน้องของคณะวิศวกรรมศาสตร์ในสังคมนั้น แสดงออกถึงมีความรุนแรงในการรับน้อง
และมีชัดเจนในการทำกิจกรรมดังกล่าวมากกว่าคณะอื่นๆในมหาวิทยาลัย เช่น
การว้ากของรุ่นพี่ในคณะ การทำกิจกรรมสันทนาการในกิจกรรมรับน้อง
หรือการรับน้องนอกสถานที่
(ในเรื่องก็ได้นำเอาภาพลักษณ์ของการรับน้องนอกสถานที่มาใช้ โดยใช้ทะเลที่จังหวัดระยองเป็นฉาก
ซึ่งแน่นอนว่าฉากการรับน้องที่ทะเล
ก็นำมาจากภาพลักษณ์จากข่าวสารที่เสนอตามสื่อสังคม
และการใช้ฉากเป็นทะเลจังหวัดระยองก็เป็นการสร้างภาพให้ดูมีความสมจริง
โดยนำสิ่งที่มีอยู่จริงมาใช้) อีกทั้ง ภาพลักษณ์ที่ผู้เรียนในคณะวิศวกรรมศาสตร์
นั้นส่วนใหญ่มักจะเป็นนักศึกษาชายที่เข้ามาศึกษามากกว่านักศึกษาหญิง
นั้นจึงจุดที่ทำให้ BitterSweet นำมาใช้ในการ
“จิ้น”ชายรักชายขึ้นมา ด้วยปริมาณที่ผู้ชายที่มากกว่าและภาพลักษณ์ของนักศึกษาชายวิศวะที่ดูดิบเถื่อน
เท่ห์ ฉลาด และมีความอ่อนโยนในบางมุม จึงทำให้การสร้างภาพตัวละครเอกชายรักชายในคณะดังกล่าวดูเอาใจทั้งผู้เขียนและผู้อ่านที่ชื่นชอนในเนื้อเรื่องแนวนี้
ในแง่ภาพลักษณ์ของชายรักชายนั้น
อาจหมายร่วมถึง ตุ๊ด กะเทย เกย์ ที่รวมอยู่ในสังคม แต่ในเรื่อง SOTUS นั้น
ผู้เขียนได้กำหนดให้ทั้งอาทิตย์และก้องภพนั้นมีความเป็นผู้ชายแท้ตามธรรมชาติเพศสภาพ
แต่กลับมีความรู้สึกชอบผู้ชายด้วยกัน
ดูได้จากฉากหนึ่งที่อาทิตย์เล่าถึงเรื่องผู้หญิงที่เขาแอบชอบมาตั้งแต่สมัยมัธยมให้ก้องภพฟังในที่พึ่งบังเอิญพบเจอกัน
ขณะที่กำลังช่วยก้องภพเลือกซื้อของขวัญวันเกิดให้หลาน (หน้า 248-257)
หรือฉากที่ก้องภพโทรศัพท์หาอาทิตย์เพื่อถามถึงเหตุผลที่อาทิตย์หลบหน้าไม่พูดคุยด้วย
“ผมไม่รู้ว่ามันเริ่มตอนไหน ไม่รู้ว่ามันเริ่มยังไง ทั้งที่พี่ก็เป็นผู้ชาย และผมก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน
แต่ผมห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้...”
(หน้า 295)
จากประโยคสนทนาที่ก้องภพพูด แสดงให้เห็นว่าทั้งตัวเขาเองและอาทิตย์ก็เป็นผู้ชายเหมือนกัน เพียงแต่ว่าเขากลับมีความรู้สึกที่มีต่ออาทิตย์มากกกว่านั้น BitterSweet ได้กล่าวถึงการสร้างตัวละครเหล่านี้ตาม ว่าสร้างขึ้นตาม“มายาคติของสาววาย” มายาคติที่ว่า คือ “ผู้ชายแท้”ที่มีความรู้สึกชอบ“ผู้ชายแท้”เหมือนกัน ส่วนคำว่า “สาววาย” ก็คือหญิงสาวที่มีรสนิยมความชื่นชอบในเรื่องชายรักชาย ซึ่งการสร้างตัวละครตามมายาคติของสาววาย ก็เป็นการสร้างเพื่อเอาใจและดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคที่เป็น “สาววาย” โดยเฉพาะ เพราะฉะนั้นต้องเป็นผู้ชายแมนๆ แต่พอมานั่งคิดบทวิเคราะห์กันจริงๆ แล้วเนี่ย มันอาจจะไม่ตรงความจริงมากนัก (attitude หน้า 69 )
มายาคติอีกอย่างหนึ่งที่ BitterSweet นำมาใช้สร้างตัวละครเอกของเรื่อง คือ “มายาคติของละครไทย”
ดูได้จากคาแรกเตอร์ของก้องภพ ที่ผู้เขียนวาดให้เป็น
ผู้ชายที่ดูมีเหตุผล อบอุ่น เข้าใจได้ ส่วนอาทิตย์ก็จะเป็นสไตล์ปากร้ายแต่ใจดี (attitude หน้า 68) แน่นอนว่าคาแรกเตอร์ที่ว่าย่อมเป็นที่คุ้นเคยกันดีกับผู้คนในสังคมที่นิยมชมชอบละครไทยหรือละครหลังข่าว
โดยพระเอก-นางเอกนั้นจะมีคาแรกเตอร์ที่ส่วนใหญ่เป็นแบบที่BitterSweet วาดไว้ให้ทั้งก้องภพและอาทิตย์ มายาคติของละครไทยใช่ว่า BitterSweet นำมาสร้างแค่ตัวละครเอกอย่างเดียว แต่ได้นำมาใช้ในการสร้างพล็อตเรื่องด้วยเช่นกัน
พล็อตเรื่องที่ว่าคือ ไม่พระเอกก็นางเอก ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะไม่ถูกหรือไม่ชอบหน้ากันในตอนแรกแต่จะลงเอยกันในตอนจบ
เช่นเดียวกันกับในเรื่องที่ในตอนแรกนั้นอาทิตย์จะไม่ชอบก้องภพด้วยว่าก้องภพทำให้ศักดิ์ศรีการเป็นพี่ว้ากของเขานั้นถูกหยามเพราะการประกาศจะจับอาทิตย์ทำเมียเพื่อชิงเกียร์รุ่น
แต่สุดท้ายทั้งคู่ก็ลงเอยกัน
ในนิยายเรื่อง SOTUS พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง อาทิตย์
ซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่อง มีสถานะเป็นรุ่นพี่ปีสามและเป็นเฮดว้ากของคณะวิศวะ
นั้นหมายความว่าอาทิตย์เป็นตัวละครที่อำนาจในการสั่งการตัวละครอื่นๆให้ทำตามคำสั่งที่ตนสั่ง
และเป็นตัวละครที่มีอิทธิพลในการกำหนดกิจกรรมการรับน้องปีหนึ่ง
แต่การที่อาทิตย์จะขึ้นมามีอำนาจเช่นนี้ แน่นอนว่าเขาเองต้องเคยเป็นผู้อยู่ใต้อำนาจของพี่ว้ากรุ่นก่อนในสมัยที่อาทิตย์ยังเป็นเด็กปีหนึ่ง
และการที่อาทิตย์เคยเป็นเด็กปีหนึ่งที่ผ่านกิจกรรมรับน้องของคณะมาก่อน
ประกอบกับการที่รุ่นพี่ที่เป็นพี่ว้ากรุ่นก่อนๆเห็นแววที่จะสืบทอดตำแหน่งการเป็นพี่ว้ากในการรับน้องรุ่นต่อๆไป
ทำให้อาทิตย์ขึ้นมามีอำนาจภายใต้การเป็นพี่ว้ากของคณะ แต่ตำแหน่งที่ว้ากที่อาทิตย์ได้รับก็ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันเช่นกัน
ซึ่งดูได้จาก “10 สิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่ออาทิตย์เป็นพี่ว้าก”
(หน้า 71-79) ที่บรรยายถึงความเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตในมหาฯลัยของอาทิตย์มาเป็นข้อ
ตั้งแต่การตั้งนาฬิกาปลุกทั้งที่ตัวเองเป็นคนนอนตื่นสาย การหักห้ามใจไม่กินนมเย็นทั้งที่เป็นเครื่องดื่มที่ตัวเองชอบเพื่อรักษาหน้าการเป็นพี่ว้าก
การไว้หนวดเพื่อให้มีภาพลักษณ์ดูน่าเกรงขาม ฯลฯ โดยสิ่งเหล่านี้ก็ล้วนเป็นสิ่งที่ฝืนต่อการใช้ชีวิตก่อนที่เขาเองจะกลายมาเป็นพี่ว้าก
ซึ่งบางครั้งก็ต้องตัดใจหรือหักห้ามใจข่มเอาไว้ ก็เพื่อให้ตัวเองทำหน้าที่ดังกล่าวได้อย่างสมบูรณ์
ในการมีอำนาจของอาทิตย์นั้นย่อมต้องมีสิ่งที่ตนเองต้องรับผิดชอบในกิจกรรมรับน้องตามติดมาเป็นเงา
หน้าที่ความรับผิดชอบที่ว่านั้นอาจกล่าวได้ว่าเป็นอำนาจอีกอย่างหนึ่งที่คอยควบคุมอาทิตย์
ซึ่งอาทิตย์เองก็ดูเป็นจะยอมทำตามในหน้าที่ความรับผิดชอบที่ว่าด้วยเช่นกัน
“พี่ว้ากทุกคนฟังคำสั่ง ผมจะให้พวกคุณลุกนั่งห้าร้อย วิดพื้นห้าร้อย สก็อตจัมป์ห้าร้อยส่วนผมเป็นเฮดว้าก จะรับผิดชอบทำทั้งหมดเสร็จแล้วจะออกไปวิ่งรอบสนามอีกห้าสิบสี่รอบด้วย ปฏิบัติ ! ”
“รับทราบ !!!”
เสียงตะโกนดังก้องพร้อมเพรียงอย่างคนแสดงความเต็มใจยอมรับคำสั่งลงโทษตัวเอง
แล้วพี่ว้ากจึงยืนเรียงแถวกอดคอลุกนั่งพลางนับเลขเสียงดัง ด้วยจำนวนหนักหนากว่าที่เคยสั่งพวกปีหนึ่งหลายเท่าแบบเทียบไม่ติด
ท่ามกลางสายตาของน้องที่มองเหตุการณ์ตรงหน้าด้วยความทึ่ง(หน้า 132)
นี้เป็นอีกฉากหนึ่งที่อาทิตย์ แสดงถึงอำนาจที่ตัวเองมีนอกเหนือจากการตะโกนว้ากน้องหรือออกคำสั่งให้ปีหนึ่งทำตามคือการโชว์พาวรับบทลงโทษต่อหน้าเด็กปีหนึ่ง การโชว์ดังกล่าวนั้นก็เป็นการแสดงให้เห็นว่ามีตัวเองนั้นมีความเหนือกว่า สามารถทำได้ดีกว่ารุ่นน้องปีหนึ่งที่ถูกเขาสั่ง ดูได้จากบทลงโทษในบทที่ยกมาและอาการของรุ่นน้องปีหนึ่งในเหตุการณ์ ซึ่งมันก็ได้ผล แต่ก็ต้องแลกกับความเจ็บปวดทางร่างกายที่ตนได้รับในภายหลัง (หน้า 142-155)
อำนาจการเป็นเป็นพี่ว้ากแน่นอนว่าเป็นอำนาจที่เกิดขึ้นมาจากหน้าที่ที่อาทิตย์ต้องทำ
อาจจะได้อย่างและก็เสียอย่างซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาของการเป็นเฮดว้าก แต่ก็มีสิ่งๆหนึ่งที่มีอำนาจต่ออาทิตย์นอกเหนือไปจากหน้าเฮดว้ากของคณะ
นั้นคือ ก้องภพ ตัวละครเอกอีกตัวของเรื่อง
การเข้ามาของก้องภพในฐานะเด็กปีหนึ่ง
ถือว่าเป็นการสั่นคลอนอำนาจที่พี่ว้ากอย่างอาทิตย์มีเป็นอย่างมากและเป็นสิ่งที่ทำให้อาทิตย์จดจำอย่างไม่มีวันลืม
ดูได้จาก “10 สิ่งที่เปลี่ยนไปเมื่ออาทิตย์เป็นพี่ว้าก”
(หน้า 71-79) ในข้อสุดท้าย
จะเห็นได้ว่าก้องภพเข้ามามีอิทธิพลต่อการทำหน้าที่ของเขา ทำให้เขาเองคอยจับตามองก้องภพอยู่เสมอในการทำกิจกรรมรับน้อง
อารมณ์ความรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าตั้งแต่แรกพบที่มีต่อก้องภพ
กลายเป็นสิ่งที่เข้ามาอยู่ในความทรงจำของอาทิตย์อย่างง่ายดาย และแม้ว่าอาทิตย์จะพยายามสั่งทำโทษหนักๆแค่ไหนก็
เพื่อเป็นแบบอย่างในการขู่ปีหนึ่งให้มีความหวั่นเกรงต่ออำนาจพี่อย่างเขา
แต่ไม่เป็นผลสำหรับก้องภพ
พลอยทำให้เขาหงุดหงิดมากกว่าความสะใจที่ได้ใช้อำนาจที่ตนมีในการสั่งสอน
ในความคิดของผู้อ่าน หลายคนคงคิดว่า ตัวละครอย่างก้องภพ เป็นตัวละครที่ถูกสร้างเพื่อมาต่อกรกับอำนาจพี่ว้ากอย่างอาทิตย์
แท้จริงแล้วอาทิตย์ไม่ได้ถูกต่อกรโดยก้องภพแต่เขากลับตกอยู่ภายใต้อำนาจของก้องภพมากกว่า
อำนาจในที่นี้หมายถึงอำนาจอารมณ์และความรู้สึกของอาทิตย์ ตัวอย่างที่เห็นได้ง่ายและชัดเจนคือฉากที่ก้องภพไม่พอใจอาทิตย์ที่ให้พวกตนเองนั้นถอดเสื้อ
เกลือกกลิ้งบนพื้นทรายแล้วลงไปนั่งแช่ในน้ำทะเล
จนอาทิตย์โมโหสั่งให้ก้องภพลงไปในทะเล และสิ่งที่เกิดขึ้นตามมาต่อจากนี้คือ
สิ่งแรกที่เขาเห็นหลังโผล่พ้นจากน้ำ คือแววตาหวาดกลัวของพี่อาทิตย์ ซึ่งเขาไม่รู้ว่าเจ้าตัวมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไง เขากำลังจะอ้าปากถาม แต่ดันโดนมือล็อกลากร่างขึ้นจากฝั่ง เลยกลายเป็นว่าเขากลืนน้ำทะเลเข้าปากไปอึกใหญ่ หากอีกฝ่ายยังคงไม่หยุด ทั้งลากทั้งดึงเขาขึ้นมาจนถึงชายหาด ทำให้คนสำลักความเค็มของน้ำทะเลไอออกมาจนตัวโยน นั่นยิ่งสร้างความตระหนกให้กับอาทิตย์ที่ช่วยประคองศีรษะเขาเอาไว้ (หน้า 218)
อาทิตย์คาดไม่ถึงว่าก้องภพจะทำตามที่เขาสั่งจริง จากที่เขามีอำนาจในการสั่งลงโทษกลับกลายเป็นเขาเองที่หวาดกลัวและตกอยู่ใต้อำนาจของก้องภพ โดยที่ก้องภพเองก็คาดไม่ถึงเช่นกัน การกระทำดังกล่าวของก้องภพมีอิทธิพลต่อความรู้สึกที่ทำให้อาทิตย์เกิดวิตก หวาดกลัว ต่อสิ่งที่เกิดขึ้น อำนาจที่มีผลต่อความรู้สึกของอาทิตย์กลายเป็นสิ่งที่ก้องภพใช้กดดันความรู้สึกของอาทิตย์จนเกิดเป็นฉากสะพานพระรามแปด(อาทิตย์สารภาพรัก) อันเลื่องชื่อที่ตราตรึงใจผู้อ่านและสาววายโดยเฉพาะ (หน้า 318-326 )
อาทิตย์มีอำนาจในฐานะพี่ว้ากก็จริง
แต่ในทางกลับกัน อาทิตย์กลับเป็นตัวละครที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของระบบการรับน้อง (ระบบSOTUS)ในรูปแบบการรับสืบทอดตำแหน่งพี่ว้ากจากรุ่นพี่ โดยมีตำแหน่งหน้าที่ที่ได้รับเป็นตัวควบคุมพฤติกรรมและการกระทำของเขา
ซึ่งแน่นอนว่าอำนาจที่เขามีนั้นเป็นเพียงการอุปโลกน์ขึ้นมาเพื่อให้ตนเองสามารถที่จะทำหน้าที่นี้ต่อไปตามที่ค่านิยมการรับน้องกำหนด
อีกทั้งตัวละครอย่างอาทิตย์ก็เป็นตัวละครที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจของก้องภพ
ตัวละครอีกตัวซึ่งมีอิทธิพลต่ออารมณ์และความรู้สึกของอาทิตย์โดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ซึ่งสิ่งที่สนับสนุนให้ตัวละครอย่างก้องภพมีอำนาจที่ว่านั้น คือการที่ BitterSweet สร้างมายาคติขึ้นมาในเรื่อง โดยใช้การสร้าง
“มายาคติของสาววาย” ในการวาดตัวละคร (ชายแท้รักชายแท้ด้วยกัน) ขึ้นมา
แล้วทำให้ตัวละครที่วาดขึ้นมานั้น มีบทบาท หน้าที่ ที่ชัดเจนยิ่งขึ้นโดยใช้
“มายาคติของละครไทย” เป็นตัวกำหนดคาแรกเตอร์ของตัวละครทั้งสอง
และแน่นอนว่าการกำหนดบทบาทของมายาคติของละครไทยย่อมส่งผลให้ก้องภพ เป็นตัวละคร
(พระเอก) ที่มีอิทธิผลต่อความรู้สึกของอาทิตย์ (นางเอก)
ตามแบบมายาคติที่ผู้เขียนใช้ ในการสร้างขึ้นมา
หากเมื่อพิจารณาในสิ่งที่ได้กล่าวมานั้น
อาทิตย์กลายเป็นตัวละครในนิยายที่เป็นฝ่ายตกอยู่ภายใต้อำนาจทั้งเรื่อง
ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ หรือเรื่องของความรู้สึก แต่ไม่ว่าอาทิตย์จะเป็นตัวละครที่ตกอยู่ภายใต้อำนาจใดๆก็ตาม
อาทิตย์ก็คือ(พี่ว้ากตัวร้าย)ที่มาพร้อม(กับนาย)ก้องภพเฟรชชี่ที่จะพาผู้อ่านเข้าสู่บรรยากาศของการรับน้อง(ปีหนึ่ง)
6 มกราคม 2561 เวลา 04:50 น .
แก้ไขเพิ่มเติม 23
มกราคม 2561 เวลา 22:50 น.
_____________________________________________________________________________________
อ้างอิง
ธวัชชัย ดีพัฒนา. (2560). SOTUS S CONFIDENTIAL. Attitude, 77, 66-69
BitterSweet (บุษรา
ภัทราพรพิสิฐ). 2557. SOTUS พี่ว้ากตัวร้ายกับนายปีหนึ่ง.
พิมพ์ครั้งที่ 1. กรุงเทพมหานคร : NABU